บทสนทนากับคนแปลกหน้า

บทสนทนากับคนแปลกหน้า

ระหว่างที่กำลังเดินทางไปทำงานที่จุฬา แต่ว่ามีฝนตกหนักบวกกับนายจ้างยังมาไม่ถึงเพราะรถติด จึงมีโอกาสไปเดินเล่นในพารากอนเพื่อฆ่าเวลา ระหว่างที่เดินดูนั่นนี่ไปมา สุดท้ายก็หยุดยืนรออยู่หน้าประตู แถวนั้นมีคนยืนรอเพื่อนฝูงอยู่มากมาย เราก็คิดว่าจะคุยอะไรกับคนแปลกหน้าดี คิดแผนผังต้นไม้ของบทสนทนาขึ้นมาในหัว ว่าเราถามแบบนี้ เค้าน่าจะตอบมาแบบไหนบ้าง แล้วเราจะตอบกลับไปว่าอะไรดี คิดไปคิดมา สุดท้ายคนที่เค้ารออยู๋ก็มา แล้วก็เดินกันไป ก็เลยไม่ได้คุยสักที เราเคยตั้งเป้าหมายไว้ว่า เราอยากจะเป็นคนเปิดๆ คือเจอใครก็คุยไปเรื่อย คุยได้ทุกคน

พอรอนานๆก็เริ่มเมื่อยและหิว เลยลงไปกินข้าวที่ฟูดคอร์ทข้างล่าง ปรากฏว่าคนเยอะมาก เดินวนไปสองรอบกว่าจะได้ที่นั่ง ตอนที่เรานั่งก็มีอีกคนเข้ามานั่ง เราก็คิดในใจว่าเราควรจะชวนเค้าคุยสักหน่อย ฝึกพูดคุยกับคนอื่นบ้าง ก็ทำได้เหมือนเดิมคือแค่คิดๆบทสนทนาไว้ สุดท้ายพอเรากินเสร็จกำลังจะลุก เค้าก็ทักเราว่า คนจีนหรือเปล่า ก็เลยได้คุยกันยาวเลย เราก็ฟังเค้ารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ภาษาอังกฤษฟังพูดเราอ่อนแอสุดๆ จับใจความได้ว่ามาจากพม่า เป็นแอคเค้าท์เมเนเจอร์ มาคุยธุระที่ไทย แล้วก็คุยกันเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเมือง เรื่องอุตสาหกรรมไอที ชีวิต สังคม วัฒนธรรม อาหารโชคดีทีเค้าก็อยู่บริษัทไอทีเหมือนกัน ก็เลยคุยได้หลากหลายหน่อย เพราะพื้นฐานความรู้ใกล้เคียงกัน สุดท้ายเค้าก็ขอคอนแทคเราไว้ แต่ว่ามือถือเค้าไม่มีคีย์บอร์ดภาษาไทย เลยเสิชชื่อเราไม่ได้ 5555555 ได้ชื่อเฟสบุคเค้ามา แต่พอเสิชชื่อเท่านั้นแหละ มีเป็นร้อยคนหาไม่เจอ แต่ก็ยังดีที่ได้นามบัตรมา เลยส่งเมลล์ไปหาให้เค้าแอดเรามาแทน

stranger-card

กลับมาก็มานั่งคิด ว่าชื่อเรามันออกเสียงยากสำหรับคนต่างชาติหรือเปล่าหว่า ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาการเรียกชื่อนะ อาจจะลองตั้งชื่อภาษาอังกฤษง่ายๆให้คนฝรั่งเรียกจะดีไหมนะ